วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

บทความอาหารฟาสต์ฟู้ต


ฟาสต์ฟู้ต

ฟาสต์ฟู้ด ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสะดวกรวดเร็วอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ฟาสต์ฟู้ดก็ได้ชื่อว่าเป็นอาหารขยะที่ทำลายสุขภาพมากที่สุดอย่างหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อดีข้อเสียของอาหารฟาสต์ฟู้ดมาให้ลองอ่านกันแล้วคิดดูดี ๆ ว่าฟาสต์ฟู้ดมีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากันแน่

1. ช่วยประหยัดเวลาแน่นอนว่าเวลารีบ ๆ ฟาสต์ฟู้ดถือเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของใครหลาย ๆ คน เพราะสะดวกทันใจแถมยังอร่อยสุด ๆ เหมาะกับการใช้ชีวิตที่รีบร้อนของสังคมสมัยนี้ เพราะแบบนี้หลายคนจึงเต็มใจจะโทรสั่งแฮมเบอร์เกอร์หรือพิซซ่ามานั่งกินไปทำงานไปที่โต๊ะกันเยอะแยะ

2. เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบ จุดเด่นของฟาสต์ฟู้ดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบนี่แหละ เช่น ถ้าคุณทำพิซซ่าทานเอง คุณอยากจะใส่เครื่องอะไรโรยหน้าก็ได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้ต่อให้ไม่ทำอาหารเองที่บ้าน บางร้านก็มีบริการให้คุณเลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบเช่นกัน

ฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีทั้งประโยชน์และโทษ

แบบที่มีประโยชน์กับร่างกายก็มีเช่นกัน

จากการที่ทุกวันนี้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ก็เลยทำให้ร้านต่าง ๆ หันมาเพิ่มตัวเลือกในการทานฟาสต์ฟู้ดแบบเพื่อสุขภาพคอยเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากดูแลตัวเองและอร่อยกับฟาสต์ฟู้ดด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ควรเปลี่ยนมาเลือกใส่เครื่องปรุงที่ดีมีประโยชน์กับร่างกายของคุณมากขึ้น เช่น ใช้ขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาวจะดีกว่า

 ราคาประหยัด

อาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าพวกอาหารทั่วไปอยู่แล้ว (บางประเภท) เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการจะเก็บเงินเป็นพิเศษ และเพราะแบบนี้เองร้านฟาสต์ฟูดถึงมีคนต่อคิวอยู่เสมอเพื่อให้ได้กินอาหารที่ทั้งอร่อยทั้งประหยัด

สารอาหารไม่เพียงพอ

เป็นที่รู้กันดีว่าฟาสต์ฟู้ดน่ะไม่ได้มีสารอาหารครบถ้วนเพียงพอกับที่คนเราต้องการในแต่ละมื้อ ดังนั้นการกินแต่ฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นคนขาดสารอาหารไปด้วย คนที่ต้องการจะลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรงดอาหารพวกนี้อย่างจริงจัง เพราะอาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่เต็มไปด้วยของที่ทำให้อ้วนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชีส เนย หรือน้ำมันที่จะทำให้น้ำหนักของคุณพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว รู้อย่างนี้แล้วใครที่อยากรักษาหุ่นก็อย่าลืมออกกำลังกายชุดใหญ่หลังทานมื้อหนักของคุณเข้าไปด้วยล่ะ

เป็นตัวการทำให้อ้วน

คนที่ต้องการจะลดน้ำหนักให้ได้ผล ควรงดอาหารพวกนี้อย่างจริงจัง เพราะอาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่เต็มไปด้วยของที่ทำให้อ้วนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ชีส เนย หรือน้ำมันที่จะทำให้น้ำหนักของคุณพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว รู้อย่างนี้แล้วใครที่อยากรักษาหุ่นก็อย่าลืมออกกำลังกายชุดใหญ่หลังทานมื้อหนักของคุณเข้าไปด้วยล่ะ ทำให้ติดโดยไม่รู้ตัว

การทานอาหารฟาสต์ฟู้ดติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้คุณติดใจในรสชาติของอาหารประเภทนี้ จนขยาดที่จะกินผักหรือพวกน้ำสลัดไขมันต่ำไปโดยไม่รู้ตัว แถมความสะดวกสบายในการกินยังทำให้คุณเคยตัวจนไม่คิดจะขยับตัวเดินไปไหนอีกด้วย ซึ่งกว่าจะมารู้ทีหลัง สุขภาพของคุณอาจย่ำแย่ไปมากแล้วก็ได้

เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ถ้าคุณทานฟาสต์ฟู้ดมากเกินไป อาหารพวกนี้ก็จะกลายมาเป็นตัวทำลายสุขภาพของคุณได้ จากปริมาณไขมันและเครื่องเทศรสจัดต่าง ๆ ที่มากเกินเหตุ โดยโรคที่พบหลัก ๆ จากคนที่ทานฟาสต์ฟู้ดมากเกินไปนั้นก็ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคตับนั่นเอง  ทั้งนี้ อาหารทุกอย่างก็มีทั้งข้อดีข้อเสียทั้งนั้น หากทานในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นคุณควรทานแต่พอดีและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพของตัวเองจะดีกว่า

อาหารจานด่วน (Fast Food) คือ อาหารที่ปรุงเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว หรือทันเวลาพอดี (Just-in-time) และพร้อมกินได้ทันที ซึ่งโดยทั่วไปคนมักจะนึกถึงแต่อาหารจานด่วนของฝรั่งจำพวก พิซซ่า ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ ฮอทดอก ฯลฯ หาก ความจริงแล้วอาหารไทยบางประเภท ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารจานด่วนด้วยเหมือนกัน เช่น ข้าวราดแกง อาหารตามสั่งทุกชนิด ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีนน้ำยา สุกี้ เป็นต้น ซึ่งอาหารดังกล่าวล้วนมีกรรมวิธีในการปรุงที่รวดเร็วและพร้อมกินได้เลย อาหารจานด่วนหรือที่หลายคนเรียกว่าอาหารขยะ(junk food เป็นอาหารของชาวตะวันตก ที่เผยแพร่ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีผู้ให้ความเห็นว่าการที่อาหารจานด่วนกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วๆไปก็เพราะ ว่าเน้นที่ความสะดวกรวดเร็ว และลูกค้าสามารถซื้อไปกินได้ทุกที่ทุกเวลา นั่งกินในร้าน ในรถ ที่ทำงาน กินไปทำงานไป กินในเวลาเร่งรีบ โดยมีเพียงกระดาษรอง และทิ้งได้ทันทีเมื่อกินเสร็จ ปัจจุบันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นไปแล้ว ว่าต้องกินอาหารฟาสฟูดหรืออาหารจานด่วน การบริโภคอาหารจานด่วนโดยขาดความยั้งคิดนั้น นอกจากตัวเลขของน้ำหนักจะพุ่งพรวดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมที่สะสมในร่างกายยังเป็นสาเหตุหลักของการนำมาซึ่งอาการเจ็บป่วย ต่างๆ อีกสารพัดโรค รวมทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดต่ำลงอีกด้วย

ผลเสียจากการรับประทานอาหารจานด่วน

1.) โรคกระดูกข้ออักเสบ เป็นโรคยอดฮิตของคนที่มีน้ำหนักส่วนเกินมาก เพราะน้ำหนักส่วนเกินที่เกิดจากการสะสมของน้ำตาล และไขมันนั้น จะทำให้กระดูกเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ช่องว่างระหว่างข้อต่อจะหดแคบลงจนบดซ้อนทับกันในที่สุด นำมาซึ่งอาการปวดเมื่อยตามกระดูกข้อเข่า สะโพก และชาตามกระดูกสันหลัง

2.) โรคอ้วน ผลเสียที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากการกินอาหารจานด่วน คือน้ำหนักเพิ่มขึ้น และเมื่อกินบ่อยๆก็จะก่อให้เกิดโรคอ้วน และอีกสารพัดโรคตามมา

3.) โรคหัวใจ เมื่อกินอาหารที่มีไขมันบ่อยๆ จะทำให้มีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจทำให้มีการสะสมลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดง

4.) ความดันโลหิต ความเค็มปริมาณสูงจากอาหารดังกล่าว หากสะสมในร่างกายเยอะๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิต และโรคไตค่อนข้างสูง

5.) โรคตับ การสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เกิดโรคตับแข็งได้

6.) โรคเบาหวาน ผู้ที่มีไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องมากเกินไป มักเกิดภาวะต้านอินซูลิน ทำให้มีการสะสมกลูโคสในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เป็นโรคเบาหวานได้ และภาวะแทรกซ้อนประการหนึ่งคือการทำลายหลอดเลือดในจอตา อันจะทำให้ตาบอดได้

7.) ภาวะไขมันในเลือดสูง คนที่กินอาหารดังกล่าวเป็นประจำ จะมีระดับไขมันในเลือดมากกว่าคนที่ไม่ได้กิน และมีโอกาสเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน

8.) หลอดเลือดพิการ เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยแป้งขาว ไขมัน และน้ำตาล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ไขมันเกาะที่ผนังหลอดเลือด

9.) โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ คนที่กินอาหารดังกล่าวเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากการสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง

 



10 อาหารขยะที่อันตรายที่สุดในโลก

1.แฮมเบอเกอร์

 

              แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย  อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ

2.ฮอทด็อก

 

ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100%


3.เฟรนช์ฟราย

 

เป็นอาหารที่มี ความเป็นพิษสูงการทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท

4.โอริโอ้ คุกกี้

 

ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว  ช็อกโกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบอยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

5.พิซซ่า

 

พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 5 ชนิด

เนยแท้ (cheese) เพียง 10% เท่านั้น แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไปใหม่

-ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง ในร่างกายของท่าน

-แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม

-มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้

6.น้ำอัดลม

 

สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้

7.ชิ้นไก่เนี้อนุ่มไม่มีกระดูก

 

ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะ

8.ไอศครีม

 

มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

9.โดนัท

 

โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน  มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้

10.โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยว

 

การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท  กินมันฝรั่งทอดเพียงวันละ 1 ถุง เท่ากับซดน้ำมันพืชปีละ 5 ลิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น